STANLY (HOLD : Fair Price : Bt 237.00) : 4Q24 ยังดีอยู่ แต่ปี 25 ภาพไม่สดใส

Published
02 May 2024
Share this article:

ผลประกอบการงวด FY4Q24 (ม.ค.-มี.ค.24) ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของอุตสาหกรรมยานยนต์มากนัก เนื่องจากยังมีคำสั่งซื้อที่ค้างจากช่วงก่อนหน้าอยู่ ทำให้กำไรสุทธิยังคงเติบโตได้จาก FY3Q24 ได้ประมาณ 7%QoQ (แต่ลดลง 16%YoY จากฐานที่สูง) มาอยู่ที่ 475 ล้านบาท อย่างไรก็ตามแนวโน้มในปี 25 (เม.ย.24-มี.ค.25) คาดว่าจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการหดตัวของยอดการผลิตรถยนต์บ้างแล้ว ซึ่งทาง STANLY เองมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตใหม่เพื่อรับกับผลกระทบดังกล่าว ซึ่งทำให้เราอาจจะมีการปรับประมาณการปี 25 ลงจากเดิมที่คาดกำไรสุทธิ 1,815 ล้านบาท (+7%YoY) สำหรับคำแนะนำ เรายังเน้นการลงทุนระยะยาว เพราะมองว่าเป็นบริษัทที่พร้อมในการเข้ามาของรถ EV โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 237 บาท (10.5XPER’25E)

FY4Q24 คาดกำไรสุทธิ 475 ล้านบาท (-16%YoY,+7%QoQ)

• เราคาดกำไรสุทธิงวด FY4Q24 (ม.ค.-มี.ค.24) ที่ 475 ล้านบาท (-16%YoY,+7%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงเพราะฐานที่สูงรวมถึงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรม ส่วนการเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าได้รับผลดีจากการเร่งผลิตสินค้าในคำสั่งซื้อที่ค้างมาจากช่วงก่อนหน้าเพื่อให้ทันปิดรอบบัญชีของบริษัท

• รายได้คาดที่ 3,751 ล้านบาท (-7%YoY,+4%QoQ) เหตุผลตามที่กล่าวไป โดยไตรมาสนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบเต็มตัวจากการลดลงของการผลิตยานยนต์ไทยที่ลดลงไปกว่า 18%YoY และ 9%QoQ

• กำไรขั้นต้นคาดที่ 19.4% ลดลงจาก 21.1% ใน FY4Q23 แต่ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 19.2% ใน FY3Q24 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดไว้ที่ 296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%YoY,4%QoQ

• รายได้อื่นรวมที่ 60 ล้านบาท (+20%YoY,+7%QoQ) เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นมากเพราะดอกเบี้ยรับ ด้านส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดไว้ที่ 102 ล้านบาท ทรงตัวจาก FY3Q24 แต่เพิ่มขึ้น 21%YoY

• รวมทั้งปี STANLY จะมีกำไรสุทธิ 1,728 ล้านบาท (-1%YoY)

FY1Q25 เริ่มเห็นผลกระทบจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรม

ภาพรวมปี 25 (เม.ย. 24 - มี.ค. 25) คาดว่าจะเริ่มเห็นผลกระทบจากการลดลงของอุตสาหกรรมตั้งแต่ไตรมาสแรกเป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้การผลิตของ STANLY มีปัญหาจากการใช้อัตรากำลังการผลิตได้ไม่เต็มที่ เบื้องต้นทาง STANLY มีการปรับปรุงการผลิตใหม่เพื่อรับมือกับผลกระทบดังกล่าว ทั้งนี้เราคาดว่าผลประกอบการในปี 25 จะออกมาต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้ที่ 1,815 ล้านบาทก

มองการลงทุนเป็นระยะยาว

จากแนวโน้มในช่วงFY1Q25 ที่ดูไม่สดใสนัก เพราะเป็นช่วงแรกที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจ ทำให้ระยะสั้นยังไม่ใช่จังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนนัก ส่วนเงินปันผลจ่ายเราคาดว่าจะไม่สูงเท่าปีก่อนที่จ่ายมา 20 บาท/หุ้น เพราะส่วนหนึ่งทาง STANLY ต้องเตรียมเงินไว้รองรับกับการชะลอตัวของอุตสาหกรรม รวมถึงปีก่อนมีการจ่ายปันผลพิเศษ 10 บาท/หุ้น โดยเบื้องต้นเราคาดว่าจะจ่ายที่ระดับ 10 บาท/หุ้น

สำหรับคำแนะนำการลงทุนเราลดคำแนะนำเป็น “ถือ” เพราะส่วนต่างกับมูลค่าพื้นฐานที่ 237 บาท (10XPER’25E) เหลือเพียง 9% และแนวโน้มในปี 25 ที่ดูไม่สดใส แต่ระยะยาวเรายังคงมองว่าด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และความพร้อมในการเข้ามาของรถ EV ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่จากจีน ทำให้ในอนาคตมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้