ฺฺBBL (BUY : Fair Price : Bt187.00) : งบดุลแกร่ง และความสามารทำกำไรสูงขึ้น

Published
08 May 2024
Share this article:

**เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 187 บาท เราชอบ BBL เนื่องจาก (1) งบดุลแข็งแกร่งรับมือกับความไม่แน่นอน (2) ความสามารถการทำกำไรดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2024-25 ROE เป็นขาขึ้นและใกล้เคียงกับในปี 2019 และ (3) มูลค่าหุ้นไม่แพงซื้อขายที่ 0.5x PBV'24E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี และต่ำกว่า 0.7 เท่า สิ้นปี 2019 เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ และคงคาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 9.7%/8% ในปี 2024-25 แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะช้ากว่าที่คาดไว้ แม้ว่า NPL ratio จะเพิ่มขึ้นเป็น 3% ใน 1Q24 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการปรับลดชั้นเชิงคุณภาพ แต่ Coverage ratio ที่สูง 291.7% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของงบดุลรับความไม่แน่นอนในอนาคต **

การประชุมนักวิเคราะห์

• เศรษฐกิจไทยยังท้าทายต่อเนื่องในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพราะความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก โดย BBL คาดเศรษฐกิจไทยจะเติบโตสูงขึ้นที่ 3% ในปี 2024 ปัจจัยหนุนมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การส่งออกฟื้นตัว และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2024-25 โดยเฉพาะการเติบโตจะสูงอย่างมีนัยใน 4Q เพราะฐานต่ำและการเบิกจ่ายงบประมาณ

• การขยายสินเชื่อในอนาคตอาจได้รับประโยชน์จากตลาดหุ้นกู้เอกชนที่ตึงตัวมากขึ้น ซึ่งเป็น upside ต่อการเติบโตของสินเชื่อที่ตั้งเป้าขยายตัว 3-5% ในปี 2024

• อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับลดได้ 0.25-0.5% ในปี 2024 และธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยลงได้ไม่มากจากระดับปัจจุบัน กรณีธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR ลง 0.25% ให้กลุ่มเปาะบางจะส่งผลกระทบจำกัด โดยเป้าหมาย NIM ที่ราว 2.8% ในปี 2024 ได้รวมปัจจัยเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งนี้ BBL มองว่าแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงใน 2Q เทียบกับใน 1Q หลังจากที่มีการออกเงินฝากพิเศษให้ดอกเบี้ยสูงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง ในประเทศอินโดนีเซียส่งผลบวกต่อธนาคารเพอร์มาตา (BBL ถือหุ้น 89.1%)

• หนี้เสียที่เพิ่มขึ้นใน 1Q24 ส่วนหนึ่งมาจากการจัดเชิงคุณภาพ และธนาคารคาดว่า NPL ratio จะไม่เกิน 3% ในปี 2024 ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดย BBL ตั้งสำรองหนี้ฯ ครอบคลุมแล้ว ทำให้มองว่า credit cost ในปี 2024 จะเป็นไปตามเป้าหมายราว 1% และมีแนวโน้มที่ credit cost ใน 2Q-4Q24 จะลดลงเทียบกับ 127 bps ใน 1Q24

• ธนาคารคงนโยบายจ่ายเงินปันผลราว 35% เพราะต้องการรักษาให้ Tier 1 capital อยู่ที่ 16% เป็นระดับก่อนซื้อธนาคารเพอร์มาตา

**แนวโน้มกำไรขยายตัวชะลอลงล้อกับ NIM ที่จะปรับลดลง **

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลงในปี 2023 และแม้การปรับลดดอกเบี้ยอาจจะช้ากว่าที่เคยประเมินไว้ เรายังคงสมมติฐานให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับลดลงที่ 2.85% ในปี 2024 (2023: 3%) แต่ถึงแม้ NIM จะลดลง BBL จะสามารถลด Credit cost ลงเป็นการจำกัดผลกระทบต่อความสามารถการทำกำไรได้ เราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโตที่ 9.7%/8% ในปี 2024-25 (2023: +42.1%) และ ROE ยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นที่ 8.4%/8.7% ในปี 2024 ซึ่งใกล้เคียงกับ 8.5% ในปี 2019

คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐานที่ 187 บาท

ด้วยมุมมองบวกต่อความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้น และราคาหุ้นที่ยังที่ไม่แพง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานลงที่ 187 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.64x PBV’24E หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี