CK (BUY : Fair Price : Bt 27.40) : 1Q24 คาดกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท

Published
08 May 2024
Share this article:

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยมีปัจจัยบวกจากการที่จะมีการเปิดประมูลโครงการของภาครัฐที่จะทยอยออกมาหลังเริ่มใช้งบประมาณปี 24 ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดในช่วง 2H24 เป็นต้นไป นอกจากงานภาครัฐ CK ยังมีโอกาสได้รับงานก่อสร้างจากบริษัทร่วมที่ถือหุ้นอยู่ด้วยอย่างเช่นงาน Double Deck หรือรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นต้น สำหรับปัจจัยระยะสั้นคาดผลประกอบการงวด 1Q24 อาจจะยังไม่ดีนัก โดยเราคาดกำไรเพียง 41 ล้านบาท (-81%YoY,-74%QoQ) เพราะได้รับผลกระทบจากผลประกอบการของ CKP ที่เป็นช่วง Low Seasons จากฤดูร้อน

คาด 1Q24 มีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท (-81%YoY,-74%QoQ)

• เราคาดกำไรสุทธิงวด 1Q24 ที่ 41 ล้านบาท (-81%YoY,-74%QoQ) เทียบกับปีก่อนลดลงแรงเพราะรายได้ที่ลดลงหลังรายได้จากโครงการหลวงพระบางเริ่มเข้าสู่ระดับปกติ ส่วนเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลงแรงเพราะส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลงเพราะ CKP เป็นช่วง Low Seasons จากฤดูร้อน

• รายได้คาดที่ 8,962 ล้านบาท (-5%YoY,+0.5%QoQ) ยังยืนสูงได้จากฐาน Backlog ที่มีอยู่กว่า 129,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากโครงการหลวงพระบางที่มีงานคงเหลือกว่า 77,900 ล้านบาท

• กำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 7.5% ดีขึ้นจาก 7.1% ใน 1Q23 และ 6.3% ใน 4Q23 กลับสู่ระดับปกติ หลังจากมีการปรับปรุงต้นทุนในโครงการหลวงพระบางไปในช่วง 4Q23 ที่ผ่านมา ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 556 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ 4Q23 แต่เพิ่มขึ้น 12%YoY

• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดว่าจะเหลือเพียง 194 ล้านบาท -3%YoY และ 59%QoQ เพราะเป็นช่วง Low Seasons ของ CKP ทำให้มีส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามา แม้ว่าส่วนแบ่งจาก BEM จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้ก็ตาม สำหรับดอกเบี้ยจ่ายใกล้เคียงกับ 4Q23 ที่ 481 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 21%YoY

หลังจากนี้ค่อยๆ ดีขึ้น

แม้ผลประกอบการในช่วง 1Q24 อาจจะดูไม่ดีนัก แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากส่วนแบ่งจาก CKP ที่ขาดทุน ซึ่งเราคาดว่าหลังจากช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้วซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำเข้าเขื่อนมากขึ้นและส่งผลให้ผลประกอบการกลับมามีกำไรสุทธิได้ ขณะที่ในแง่รายได้ คาดว่ายังรักษาระดับ 8,000-9,000 ล้านบาท ได้ต่อเนื่องจากฐาน Backlog ที่ยังอยู่ในระดับสูง และการที่งานหลักอย่างสายสีม่วงตอนใต้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการขุดอุโมงแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะเห้นความคืบหน้าได้อย่างมากในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงมีโอกาสได้รับงานใหม่ จากการเปิดประมูลของภาครัฐที่จะทยอยออกมา และงานจากบริษัทในกลุ่มอย่างทางด่วน Double Deck หรือรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพิ่มอีกทาง

**แนะนำ “ซื้อ” จากปัจจัยบวกเรื่องการเปิดประมูลงานใหม่ **

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 27.4 บาท (1.7XPBV’24E) มีปัจจัยบวกจากการเปิดประมูลงานใหม่ของภาครัฐที่จะทยอยออกมาหลังเริ่มใช้งบประมาณปี 24 ขณะที่กำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 1,759 ล้านบาท อาจจะดูสูงเกินไปหลังจาก 1Q24 คาดว่าจะมีเพียง 41 ล้านบาท โดยเราจะรอดูผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 อีกครั้งก่อนจะปรับประมาณการ