TACC (BUY : Fair Price : Bt 7.00) : กลับมาเข้าสู่ช่วงเติบโต

Published
14 March 2024
Share this article:

**เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 7.0 บาท (18XPER’24E) เพราะมองว่าผลประกอบการของ TACC จะกลับมาสู่ช่วงขาขึ้นได้อีกครั้ง หลังจากได้รับผลดีจากการเปิดสาขาของ CPALL ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว นอกจากนี้ธุรกิจตัวแทนลิขสิทธิ์ในปี 24 จะรับรู้ผลดีจากลิขสิทธิ์ตัวละคร BellyGom และ Ohigenopon แบบเต็มปี โดยเราประเมินรายได้ในปี 24 เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1,894 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิที่ 237 ล้านบาท (+15%YoY) ทั้งนี้ TACC จ่ายปันผลงวด 2H23 0.19 บาท/หุ้น XD 7 พ.ค. จ่าย 20 พ.ค. (รวมทั้งปีจ่าย 0.36 บาท/หุ้น) **

**4Q23 กำไรสุทธิ 59 ล้านบาท (+32%YoY,+14%QoQ) **

• TACC มีกำไรสุทธิงวด 4Q23 59 ล้านบาท (+32%YoY,+14%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษอย่างการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่มีมูลค่าสุทธิ 11 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 70 ล้านบาท สูงทำสถิติใหม่ของบริษัท ได้รับผลดีจากรายได้ที่สูงถึง 460 ล้านบาท

• รายได้ 460 ล้าบาท (+10%YoY,+8%QoQ) ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ของทาง CPALL ที่มีอย่างต่อเนื่อง

• อัตรากำไรขั้นต้นที่ 33% ทรงตัวจาก 3Q23 แต่ดีขึ้นจาก 30.8% ใน 4Q22 ได้รับผลดีจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ทำได้ดี รวมถึงต้นทุนบางส่วนเริ่มลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 76 ล้านบาท (+2%YoY,+1%QoQ) เพราะมีการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วม

• ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนที่ 2 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ 3Q23 แต่เพิ่มขึ้น 594%YoY เป็นผลขาดทุนจากบริษัท ไทย คานาเทค อินโนเวชั่น ซึ่งในปี 24 จะไม่มีเข้ามาอีกแล้ว

• รวมทั้งปี 23 รายได้อยู่ที่ 1,714 ล้านบาท (+12%YoY) และมีกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท (-12%YoY)

**ปี 24 โตต่อเนื่อง จากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว **

ภาพรวมปี24 TACC ตั้งเป้าเติบโต 10%YoY โดยเป็นการเติบโตตามการเปิดสาขาของ CPALL ที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ (กัมพูชา ณ สิ้นปี 23 มีจำนวน 82 สาขา และลาว ที่ ณ สิ้นปี 23 มี 3 สาขา) และได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี ขณะที่การออกสินค้าใหม่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มโถกดและ ALL café รวมถึงการขยายตัวของร้านกาแฟพันธ์ไทยด้วย นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจลิขสิทธิตัวละคร ในปี 24 จะมีการรับรู้รายได้จาก 2 ตัวละครใหม่เต็มปีทั้ง “BELLYGOM” และ “OhigenoPon” รวมถึงการร่วมมือกับสินค้าต่างๆ ในการนำภาพตัวละครไปใช้ ขณะที่ธุรกิจอาหารเสริมคาดว่าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Skin care ในเดือน มี.ค. นี้

แนะนำ “ซื้อ” เพราะได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 7.0 บาท (18XPER’24E อิงกับระดับ PER ย้อนหลัง 5 ปี) ด้วยปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่คาดว่าในปี 24 กำไรสุทธิจะเติบโต 15% มาอยู่ที่ 237 ล้านบาท ส่วนรายได้เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1,894 ล้านบาท จากปัจจัยบวกข้างต้น นอกจากนี้ TACC ยังมีการจ่ายเงินปันผลในระดับที่ดี โดยช่วง 2H23 จ่ายอีก 0.19 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 4% XD 7 พ.ค. จ่าย 20 พ.ค.(รวมทั้งปีจ่าย 0.36 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 7%)